หลายๆคนที่เตรียมสอบพูดภาษาเยอรมันในระดับต่างๆอาจจะหนักใจไม่รู้ว่าหลักเกณฑ์ในการให้คะแนนของการสอบพูดเป็นอย่างไร ทำให้เตรียมตัวไม่ถูก วันนี้แอดมินเลยเอาหลักเกณฑ์การให้คะแนนของผู้คุมสอบ TELC B2 มาให้ลองอ่านกันนะครับ เผื่อว่าจะช่วยทำให้คนที่เตรียมสอบอยู่เตรียมตัวได้ง่ายขึ้นครับ
🔥 สอบพูดอะไรบ้าง? 🔥
การสอบพูดหรือ Mündliche Prüfung ในระดับ TELC B2 นั้นมีสอบสามพาร์ตนะครับ
- Präsentation (ใช้เวลา 2นาทีครึ่งต่อผู้สอบหนึ่งคน) โดยผู้สอบต้องเลือกหนึ่งหัวข้อจาก 5 หัวข้อออกมา เพื่อพูดเล่าประสบการณ์หรือความเห็นส่วนตัวของตัวเอง เวลาที่ใช้ในการพูดนำเสนอคือ 90 วินาที แล้วจากนั้นจะต้องตอบคำถามของผู้เข้าสอบอีกคนหนึ่งเป็นเวลา 1 นาที จากนั้นตอนที่ผู้เข้าสอบอีกคนพูดเล่าเรื่อง เราก็ต้องฟังแล้วถามคำถามกลับไปเช่นกันครับ
- Diskussion (ใช้เวลา 2 นาทีครึ่งต่อผู้สมัครหนึ่งคน) โดยผู้สอบจะได้อ่านบทความสั้นๆประมาณ 200-300 คำในช่วงเตรียมตัว แล้วต้องเอาเนื้อหาที่อ่านมาถกประเด็นอภิปรายกับผู้ร่วมสอบอีกคนหนึ่ง เป็นการฝึกสรุปความของสิ่งที่ได้อ่านไปและฝึกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั่นเองครับ
- Problemlösung (ใช้เวลา 2 นาทีครึ่งต่อผู้สมัครหนึ่งคน) ผู้สอบและผู้ร่วมสอบอีกคนจะได้รับโจทย์ให้วางแผนอะไรบางอย่างร่วมกันโดยต้องเอาข้อมูลและเงื่อนไขในโจทย์มาคิดพิจารณาด้วยในตอนวางแผน
🔥 หลักเกณฑ์ในการให้คะแนนมีอะไรบ้าง?🔥
การสอบพูดทั้ง 3 พาร์ต จะพิจารณาหลักการพื้นฐานทั้งหมด 4 ข้อคือ
1) Ausdrucksfähigkeit – ความสามารถในการพูดแสดงความคิดเห็น โดยจะพิจารณาว่าเนื้อหาที่พูดออกมานั้นตรงกับบทบาทที่ได้รับหรือไม่, ภาษาที่ใช้มีความหลากหลายหรือไม่ (ไม่ใช้คำเดิมซ้ำๆกัน หลายๆที), สามารถสื่อเจตนาของตัวเองผ่านภาษาที่พูดได้หรือไม่ โดยจะได้คะแนนตามเกรดดังนี้
A* – ความสามารถเกินกว่าระดับ B2
A – เหมาะสมเต็มที่
B – เหมาะสมในภาพรวม
C – เกือบจะไม่เป็นที่ยอมรับ
D – ไม่เพียงพอ
2) Aufgabenbewältigung – การจัดการกับโจทย์ปัญหา โดยจะพิจารณาการมีส่วนร่วมในการสนทนา, การใช้กลยุทธ์ในการสื่อสารทั้งการถกเถียงอภิปรายและการพยายามอธิบายโดยอ้อมหากไม่รู้คำศัพท์, และความคล่องแคล่วในการพูด (จึงควรจะเอ่ออ่อ, เอิ่มอะไรให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้) โดยจะได้คะแนนตามเกรดดังนี้
A* – ความสามารถเกินกว่าระดับ B2
A – เหมาะสมเต็มที่
B – เหมาะสมในภาพรวม
C – เกือบจะไม่เป็นที่ยอมรับ
D – ไม่เพียงพอ
3) Formale Richtigkeit – ความถูกต้องในรูปแบบของภาษา โดยจะพิจารณาไวยากรณ์, โครงสร้างภาษา,และการใช้คำต่างๆ โดยจะได้คะแนนตามเกรดดังนี้
A – ไม่มีหรือแทบไม่มีจุดผิดเลย
B – มีผิดนิดหน่อย แต่ไม่ทำให้เจตนาของการพูดถูกบิดเบือนผิดเพี้ยนไป
C – มีผิดค่อนข้างมากและทำให้เจตนาของการสื่อความหมายถูกขัดขวางไปมาก
D – ผิดเยอะมากจนไม่สามารถฟังเข้าใจได้เลย
4) Aussprache und Intonation – การออกเสียงและการเน้นเสียงสูง-ต่ำ โดยจะได้คะแนนตามเกรดดังนี้
A – ไม่ผิดเพี้ยนไปจากการออกเสียงของภาษามาตรฐาน
B – ออกเสียงผิดไปจากภาษามาตรฐานบ้าง แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อความเข้าใจ
C – ออกเสียงต่างไปจากภาษามาตรฐานค่อนข้างมาก และทำให้การเข้าใจทำได้ยากขึ้น
D – ออกเสียงต่างจากมาตรฐานไปหลายเบอร์ ทำให้ผู้ฟังฟังไม่รู้เรื่องเลย
🔥 วิธีคิดคะแนนทั้งหมด 🔥
ทั้งสามพาร์ตของการพูด จะใช้การแบ่งให้คะแนนตามหลักการเดียวกันคือ
1 – Ausdrucksfähigkeit: A=7, B=5, C=3, D=0
2 – Aufgabenbewältigung: A=7, B=5, C=3, D=0
3 – Formale Richtigkeit: A=7, B=5, C=3, D=0
4 – Aussprache/Intonation: A=4, B=2, C=1, D=0
จะเห็นว่าคะแนนเต็มในแต่ละพาร์ตคือ 25 คะแนน รวมการสอบพูดทั้งหมดของ TELC B2 ก็จะมีคะแนนเต็ม 75 คะแนน คิดเป็น 25% ของคะแนนเต็ม 300 คะแนนของ TELC B2 ครับ
สำหรับคนที่ต้องการผ่านการสอบพูดนี้ จะต้องได้คะแนนรวมอย่างน้อย 60% ขึ้นไป นั่นก็คือ 15 คะแนนนั่นเองนะครับ จะเห็นว่าถ้าพยายามฝึกตนเองให้ได้เกรด B ในทุกๆหัวข้อที่ใช้วัด เราก็น่าจะผ่านได้ไม่ยากมากครับ
พอรู้หลักการการให้คะแนนคร่าวๆแล้ว แอดมินคิดว่าทุกคนที่เตรียมสอบก็น่าจะพอรู้ทางหนีทีไล่กันมากขึ้นนะครับ 😊😊😊
สำหรับคนที่อยากดูแนวข้อสอบ สามารถเข้าไปดาวนโหลดตัวอย่างข้อสอบ TELC Deutsch B2 ฟรีได้จาก ลิงค์ของ TELC นะครับ Viel Erfolg bei deinem Test!
1 thought on “การสอบพูด TELC Deutsch B2 ให้คะแนนอย่างไร!?!?”