เมื่อประมาณปี 2016 ผมชอบฟังพอดคาสต์ภาษาอังกฤษชื่อ “Luke’s English Podcast” ซึ่งเป็นของคุณครู Luke Thompson ชาวอังกฤษ ที่สามารถเม้ามอยเรื่องต่างๆได้เป็นชั่วโมงๆแบบไม่เหนื่อยเลยนะครับ (กราบ!) แล้วตอนเริ่มพอดคาสต์ คุณครู Luke จะบอกว่า “iTalki (อ่านว่า “ไอทอล์คกี้” นะครับ) เป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ที่สนับสนุนคุณครู ใครต้องการฝึกภาษากับเจ้าของภาษาผ่านสไกป์ก็สามารถลองใช้ iTalki ได้เลย”
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมจึงลองเข้าไปในเว็บไซต์ของ iTalki ดู แล้วก็ค้นพบว่านี่ไม่ใช่พลัตฟอร์มที่เอาไว้ฝึกภาษาอังกฤษอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้ฝึกภาษาอื่นๆได้เกือบจะทุกภาษาเลยทีเดียว
1) คอนเซ็ปต์ของ iTalki เป็นดังนี้ครับ
1.1) ผู้เรียนสามารถเลือกผู้สอนได้จากโปรไฟล์ของผู้สอนที่มีทั้งเป็นข้อความตัวหนังสือและวีดีโอแนะนำตัวของผู้สอน ซึ่งการดูวีดีโอแนะนำตัวนี้เองก็จะทำให้ผู้เรียนรู้ว่าอาจารย์พูดสำเนียงฟังยากหรือง่าย อาจารย์จะถูกชะตากับเราหรือไม่ อาจารย์ถนัดสอนเรื่องใดเป็นพิเศษ และสามารถเลือกผู้สอนได้ตรงตามความชอบและต้องการของผู้เรียนได้อย่างแท้จริง
1.2) การฝึกภาษาสามารถทำได้จากการนัดเวลากับอาจารย์ โดยสามารถดูตารางเวลาว่างของอาจารย์ได้จากบนโปรไฟล์ของอาจารย์ในเว็บ iTalki ได้เลย การเรียนการสอนนั้นจะผ่านสไกป์ ซึ่งถือว่าสะดวกมากๆตรงที่เราไม่ต้องเดินทางออกจากบ้านไปไหนเลย แต่ก็สามารถฝึกภาษาได้กับเจ้าของภาษา (Native Speaker) ที่อาศัยอยู่ในอีกซีกโลกหนึ่งนู่นแหนะครับ
1.3) อาจารย์ผู้สอนจะแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ “ผู้สอนมืออาชีพ (Professional Teacher)” และ “ติวเตอร์ของชุมชน (Community Tutor)” โดยผู้สอนมืออาชีพนั้นจะเป็นอาจารย์ที่เรียนจบมาทางด้านการสอนภาษานั้นๆโดยตรง และมักจะมีค่าตัวต่อชั่วโมงที่สูงกว่าติวเตอร์ของชุมชน เพราะติวเตอร์ของชุมชนจะเป็นเจ้าของภาษาที่ไม่ได้เรียนจบมาทางด้านการสอนภาษานั้นๆ แต่ว่ามีใจรักการสอนภาษาและช่วยฝึกสนทนาให้กับชาวต่างชาติที่เรียนภาษาของพวกเขา
สำหรับตัวผมเองนั้น ในขณะที่เจอ iTalki ก็เป็นช่วงที่มีความรู้สึกอยากฝึกพูดภาษาฝรั่งเศสให้คล่องขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าตัวเองอาศัยอยู่ที่เยอรมนีและไม่ได้แวดล้อมด้วยชาวฝรั่งเศส จึงไม่ได้มีโอกาสพูดภาษาฝรั่งเศสบ่อยนักนะครับ ก็เลยทดลองหาติวเตอร์มาฝึกพูดกับตัวเองเพื่อไม่ให้ภาษาฝรั่งเศสที่อุตส่าห์เรียนมาต้องขึ้นสนิมไปเสียก่อน
2) สรุปว่ามีประสบการณ์เรียนกับติวเตอร์สองคนมาเล่าให้อ่านกันครับ
2.1) ติวเตอร์คนแรกชื่อเจ๊แต๋ม (Tam) เป็นคนปารีสที่มีเชื้อสายเวียดนาม 100% ยิ้มเก่งและคุยสนุก คนนี้จะเอาไวยากรณ์ที่ยากๆของภาษาฝรั่งเศสมาช่วยฝึกครับ โดยจะอธิบายจุดสำคัญๆของไวยากรณ์นั้นๆแล้วให้เราฝึกพูดฝึกใช้ทันที แถมมีการบ้านให้เรากลับไปนั่งเขียนเรียงความกลับมาอีกต่างหาก นอกจากนี้ผมเองก็สามารถบอกเจ๊ไปได้ว่าเราไม่ถนัดเรื่องนั้นเรื่องนี้ อยากให้ฝึกให้เราเพิ่มอีก แล้วเจ๊ก็จะไปเตรียมมาให้ในคราวต่อไป เรียนกับเจ๊แล้วเม้ากันสนุกมาก แต่น่าเสียดายที่ตอนหลังเจ๊มาขออัพค่าตัวขึ้นเป็นเกือบสองเท่า (จากชั่วโมงละ 12€ เป็น 20€ เฉย!) ก็เลยต้องขอบายเจ๊แกไปด้วยประการฉะนี้
2.2) ติวเตอร์คนที่สองชื่อเฮียนิโก้ (Nico) เป็นคนฝรั่งเศสจากเมือง Rennes ที่อาศัยอยู่ที่เมือง Galway ในประเทศไอร์แลนด์ (อย่าเพิ่งงงนะครับ 555) คนนี้จะพูดน้อยกว่าเจ๊แต๋มแต่ว่าคือดีเพราะว่าเราจะได้มีโอกาสได้พูดเยอะขึ้น กับเฮียแกผมก็บอกว่าอยากพัฒนาทักษะการฟังให้ดีขึ้นเพราะว่ากำลังจะไปเรียนภาษาที่ฝรั่งเศสสองอาทิตย์ ปรากฏว่าเฮียแกก็ไปสรรหาวีดีโอสั้นๆประมาณ 3-4 นาทีมาให้ดูพร้อมฝึกถาม-ตอบให้เราบวกกับอธิบายศัพท์ยากและถกเถียงแสดงความเห็น รวมทั้งวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียปิดท้ายอีก เนื่องจากเฮียไม่ได้ขอขึ้นค่าตัวใดๆ (ชั่วโมงละ 10€) จึงฝึกพูดและฟังภาษาฝรั่งเศสกับเฮียนิโก้ไปเรื่อยๆโดยที่ไม่เปลี่ยนติวเตอร์
2.3) สรุปรวมเวลาที่ทดลองฝึกภาษาฝรั่งเศสด้วย iTalki กับติวเตอร์ทั้งสองคนก็ทั้งหมดประมาณ 6 เดือน คลาสเรียนฝรั่งเศสสุดท้ายที่เรียนในห้องเรียนปกติคือระดับ B2 ตอนต้น เรียนไปได้แค่สองบทก็หยุดเรียน ปรากฏว่าตอนไปเรียนภาษาที่เมือง Montpellier ประเทศฝรั่งเศส แล้วทำข้อสอบวัดระดับเพื่อจัดชั้นเรียน เขาให้เราไปเรียนชั้น C1 เฉยเลย!!! คือเหมือนกับว่าช่วง 6 เดือน (อาทิตย์ละหนึ่งชั่วโมงนะครับ) ที่ฝึกภาษาฝรั่งเศสกับ iTalki นั้น ภาษาฝรั่งเศสของเราได้ถูกอัพเกรดจากระดับ B2 ข้ามไปเป็น C1 โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยนะครับ
3) สรุปข้อดี-ข้อเสียของการฝึกภาษาด้วย iTalki จากประสบการณ์ส่วนตัว
3.1) มีความยืดหยุ่นทั้งเรื่องเวลา, สถานที่, และความสามารถในการเลือกอาจารย์ผู้สอนที่ถูกใจเราได้ ถ้าเรียนแล้วไม่ถูกใจก็สามารถเปลี่ยนไปเรียนกับคนอื่นได้โดยไม่ต้องแคร์สื่อใดๆ
3.2) ได้ฝึกสนทนากับเจ้าของภาษาที่ใช้ภาษานั้นจริงๆ โดยที่เราไม่ต้องขยับกายออกจากบ้านเลยแม้แต่น้อย ซึ่งก็เหมือนเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมเป็นภาษานั้นขึ้นมาให้เราใช้ฝึกพูดคุยสื่อสารจริงๆเลยทันที
3.3) ได้เรียนรู้บริบททางวัฒนธรรมและรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ทันสมัยจากเจ้าของภาษาอีกด้วย
3.4) ผู้เรียนสามารถเลือกหัวข้อที่ตัวเองอยากฝึกได้ตามใจชอบ
3.5) เนื่องจากเป็นการเรียนแบบตัวต่อตัว ผู้เรียนจึงสามารถฝึกภาษาได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจริงๆ นอกจากนี้ราคาค่าใช้จ่ายยังถูกกว่าการไปเรียนสนทนาตัวต่อตัวจริงๆประมาณ 30% โดยเฉลี่ยด้วยนะครับ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่าตัวของอาจารย์แต่ละคนด้วย)
3.6) ข้อเสียอย่างเดียวจากความเห็นของผมก็คือเป็นการเรียนแบบที่ไม่ได้เจอกันตัวเป็นๆ มันจะมีความรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง ถ้าเจอตัวเป็นๆบางทีสามารถเขียนอธิบายอะไรบนกระดาษได้เลย แต่ถ้าใช้สไกป์ก็ต้องพิมพ์ลงไปที่แช็ตเอา สำหรับคนที่ไม่ชินในตอนแรกก็อาจจะหงุดหงิดนิดหน่อยครับ แต่วิธีการเรียนแบบนี้ก็ถือว่าเหมาะกับช่วงเวลาของไวรัสโคโรนาพอดีเลยเหมือนกันนะครับ
สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่า iTalki จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคุณผู้อ่านสำหรับการฝึกพูดและฟังภาษาที่กำลังเรียนอยู่ให้สามารถใช้งานได้จริงสมกับที่อุตส่าห์ลงทุนเงินและเวลาไปกับบทเรียนนะครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนภาษาใดๆก็ตามให้สามารถสื่อสารได้จริงนั้น ไม่ใช่จำนวนชั่วโมงที่ใช้เรียนภาษานั้นๆ แต่คือจำนวนชั่วโมงที่เราใช้ฝึกฟัง-พูด-อ่าน-เขียนเป็นภาษานั้นจริงๆนั่นเองครับ ซึ่ง iTalki จะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้เราในจุดนี้ได้โดยที่เราไม่ต้องไปซัมเมอร์แพงๆที่เมืองนอกเลยนะครับ
สำหรับคนที่สนใจฝึกภาษากับ iTalki ก็สามารถสมัครเปิดแอ็คเคาท์และเข้าใช้งานได้จาก “ลิงค์นี้” เลยนะครับ
#ฝึกภาษาต่างประเทศ #iTalki #ฝึกภาษากับเจ้าของภาษา #ฝึกภาษาออนไลน์ #ฝึกภาษาผ่านสไกป์ #SpeakWithNativeSpeakers #PracticeMakesPerfect
tied up teen slut fucked. http://snapxxx.monster blonde teen tugs cumshot.
สวัสดีครับ ,
ผมอยากขอคำแนะนำวิธี โอนเงินเพื่อเติมเครดิต ใน iTalki ครับ
คือตอนที่เรากดเติมเครดิต 10$ แล้ว จะเห็นมีประเภทต่างไปของ บัตร กรณีที่เรามีแต่บัตรเดบิต จะกรอกเติมเงินยังไงครับ? หรือเวลามีใบเรียกเก็บเงินมา วันรุ่งขึ้นเราไปที่ศูนย์ของ Western Union ได้มั้ยครับ.
พอมาดูที่วิธีแบบ Paypal ( เข้าไปอ่านก่อนโหลด บอกว่ายังไม่ให้บริการตอนนี้ในเมืองไทย ต้องรอปี 2021 ) มีทางไหนที่สะดวกครับ.
และอีกประการสิ่งที่สงสัย คือ เวลาเราเลือกครูแล้ว จะต้องซื้อเป็นรายชม.เมื่อครูสอนเสร็จแล้ว เค้าถึงหักเงินเครดิตไปหรือครับ.
หรือเราต้องซื้อเป็นคอร์ส เช่น 10 ชม.ซึ่งเห็นครูบางท่าน จะเขียนว่าแต่ละระดับ มีกี่บทเรียนประมาณนั้น.
ผมขอคำแนะนำเท่านี้ครับ
เผอิญผมเจอครูสอนภาษาญี่ปุ่น
ท่านนึง สอนวิธีใช้ Accent แบบญี่ปุ่น ซึ่งหาเรียนยากในเมืองไทยครับ.
ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตอบช้ามาก ปกติไม่ค่อยมีคำถามบนเว็บไซต์เลยไม่ได้ดูครับ ปกติแล้วใน iTalki เราต้องเอาตังใส่เข้าไปในกระเป๋าสตางค์ของเราในแอคเคานต์ iTalki ของเราก่อนครับ เท่าที่แอดมินทราบก็ยังจ่ายได้เฉพาะบัตรเครดิตกับ Paypal เท่านั้นครับตอนนี้ (ถ้าเป็นที่ยุโรปมันจะหักจากบัญชีธนาคารได้ด้วย) จากนั้นเวลาเราจะจองชั่วโมงเรียนเราก็สามารถเลือกแบบชั่วโมงต่อชั่วโมงก็ได้ หรือครูบางคนก็มีแพ็คเกจแบบ 5 ชั่วโมงหรือ 10 ชั่วโมงที่จะทำให้ราคายิ่งถูกลงด้วยครับ แล้วแต่ตัวครูที่เราเรียนด้วยครับ แล้วเงินจากกระเป๋าสตางค์เราจะถูกหักออกไปตอนเราจองชั่วโมงเรียนครับ แอดมินแนะนำให้ทำบัตรเครดิตไว้ก็น่าจะดีครับ