สืบเนื่องจากบทความวันก่อนเกี่ยวกับ ความสำคัญของภาษาต่างประเทศ วันนี้ผมจะมาเล่า 15 เหตุผล ว่าทำไมเราจึงควรเรียนภาษาอังกฤษให้เก่งและแตกฉานใช้ได้จริงกันนะครับ
1) เพิ่มความสามารถในการค้นหาข้อมูลและความรู้
แม้ว่าในปัจจุบันเราจะสามารถหาความรู้ต่างๆมากมายได้จากการเสิร์ชในอินเตอร์เน็ต แต่ปัญหาในการค้นหาข้อมูลและความรู้ของคนหลายคนก็คือ บ่อยครั้งมากที่ไม่มีข้อมูลเป็นภาษาไทยให้อ่าน ลองเช็คง่ายๆจากเว็บ Wikipedia ก็ได้ครับ หลายสิ่งหลายอย่างมีข้อมูลให้อ่านในหลายภาษาก็จริง แต่พอลองเทียบกันแล้วภาษาไทยมีสามบรรทัดจบ ในขณะที่พอดูภาษาอังกฤษปุ๊บบางทีมีข้อมูลเป็นสิบๆหน้ากระดาษ A4 ด้วยครับ บางอย่างก็ไม่มีข้อมูลเป็นภาษาไทยให้อ่านเลยซะงั้น ด้วยเหตุนี้ ทักษะในการอ่านภาษาอังกฤษจึงนับเป็นกุญแจที่สำคัญมาก ที่จะช่วยให้เราเปิดประตูไปสู่ขุมข้อมูลและความรู้ที่มีอยู่อย่างมหาศาลในโลกนี้นะครับ

2) เพิ่มรายได้
ในยุคโลกาภิวัตน์ไร้พรมแดนเฉกเช่นปัจจุบันนี้ ธุรกิจและบริการต่างๆที่เกิดจากบริษัทข้ามชาติก็มีปริมาณเยอะขึ้นมาก อีกทั้งเศรษฐกิจประเทศไทยที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ รวมทั้งการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ ก็ยิ่งมีความจำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกับประเทศต่างๆทั่วโลกมากขึ้นไปอีก การสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งที่จะทำให้คุณเป็นที่หมายปองของบรรดานายจ้างกระเป๋าหนักมากมายในราชอาณาจักร ซึ่งแน่นอนว่าค่าตอบแทนทั้งในรูปของเงินเดือนหรือโบนัส ก็จะมากขึ้นแน่นอนเ พราะคุณสามารถใช้ทักษะภาษาอังกฤษเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทของคุณได้ หรือบางคนอาจจะสามารถรับงานไซด์ไลน์จากเว็บไซต์ของต่างประเทศ ที่จ่ายค่าจ้างเป็นเงินดอลลาร์หรือยูโรได้อีกด้วย
แม้กระทั่งในกรณีที่คุณมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หากคุณพูดภาษาอังกฤษได้ คุณก็สามารถจะไปเปิดตลาดที่ต่างประเทศทั่วโลกโดยไม่ยากนัก เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจของคุณมากขึ้นไปอีกนะครับ

3) สร้างโอกาสในหน้าที่การงาน
สำหรับข้อนี้ก็จะมีส่วนเชื่อมต่อกับข้อที่แล้ว ทักษะภาษาอังกฤษของคุณนั้นอาจจะเพิ่มโอกาสในหน้าที่การงานได้มากโขอยู่ ยิ่งการที่จะเติบโตขึ้นไปในตำแหน่งที่สูงขึ้นๆในบริษัทใหญ่ๆมากมายในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษก็ถือเป็นเงื่อนไขที่สำคัญข้อหนึ่ง หรือบางทีบริษัทของคุณมีสาขาในต่างประเทศ หากคุณพูดอังกฤษได้ โอกาสที่จะได้รับการพิจารณาให้ได้รับงานนั้นก็จะต้องสูงกว่าคนที่พูดได้แต่เพียง yes, no, OK แน่นอนนะคร้าบ
4) โอกาสในการศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับคนที่ตั้งใจจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ถ้าเป็นประเทศที่พูดภาษาอังกฤษมหาวิทยาลัยที่เมืองนอกก็จะกำหนดให้เราต้องส่งผลสอบ TOEFL, IELTS หรือ Cambridge English Test อะไรต่างๆเป็นสิ่งยืนยันว่าเราจะมีปัญญาไปเรียนรู้เรื่องจนจบคอร์สของเขานะครับ แม้แต่ในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยบางที่ก็จะขอเรียกดูคะแนนสอบภาษาอังกฤษของเราเช่นกัน
สำหรับคนที่จะเรียนต่อระดับสูงในประเทศไทยอาจจะคิดว่าชิลล์ๆและพูดไทยได้ตลอด จริงๆแล้วก็คือไม่ครับ! เพราะว่าเงื่อนไขในการจบปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยที่ไทยส่วนใหญ่ ก็กำหนดไว้ว่าเราต้องสามารถตีพิมพ์บทความทางวิชาการในวารสารนานาชาติให้ได้เสียก่อน…ซึ่งแน่นอนว่าก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษเขียนนะครับ นอกจากนี้บางที่ยังกำหนดเพิ่มอีกว่าคุณต้องเคยไปนำเสนอผลงานวิจัยในงานประชุมวิชาการระหว่างประเทศมาด้วย…แหะๆ ซึ่งก็ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการนำเสนออีกนั่นเองนะครับ นี่แหละครับความสำคัญของภาษาอังกฤษในโลกวิชาการล่ะครับ
5) โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก
ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารอะไรก็หาง่ายมาก เราสามารถเข้าถึงข้อมูลแทบทุกอย่างด้วยการใช้กูเกิ้ลเสิร์ชหาเพียงปลายนิ้ว แต่สิ่งที่จะเป็นกำแพงในการเข้าถึงข้อมูลของประเทศต่างๆของเรา ก็ยังคงมีอยู่ครับ หากเราเข้าใจแค่ภาษาไทยภาษาเดียว คราวนี้ภาษาอังกฤษมันจะช่วยเรายังไงเหรอครับ? เวลาเราเข้าเว็บไซต์ของหน่วยงานหรือบริษัทต่างๆของไทย คุณเคยสังเกตไหมว่า จะดีจะร้าย มันก็จะมีปุ่มที่เป็นรูปธงชาติของสหรัฐอเมริกาหรือธงชาติอังกฤษ ให้เรากดเพื่อเปลี่ยนภาษาของเว็บให้เป็นภาษาอังกฤษสำหรับผู้สนใจชาวต่างชาติเสมอ ในลักษณะเดียวกันนี้ เว็บไซต์ของหน่วยงานและบริษัทอื่นๆทั่วโลกเขาก็ทำปุ่มเลือกภาษาอังกฤษไว้บนเว็บไซต์ของเขาเช่นเดียวกัน และนี่คือเหตุผลว่าทำไมภาษาอังกฤษจึงเป็นกุญแจสำคัญให้เราเข้าสู่ข้อมูลจากทุกประเทศทั่วโลกไงครับ
6) เพิ่มขีดความสามารถในการท่องเที่ยว
ภาษาอังกฤษจะทำให้คุณอุ่นใจในการออกไปเผชิญโลกที่แสนจะกว้างใหญ่และรอให้เราออกไปค้นหา เพราะว่าภาษานี้เป็นภาษาที่มีคนเรียนอยู่เป็นภาษาที่สองในโรงเรียนมากที่สุดในโลก ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตามยังไงเสียก็จะหาคนมาคุยภาษาอังกฤษกับเราได้อย่างน้อยหนึ่งคนแน่นอนครับ นอกจากนี้ เวลาจะซื้อตั๋วสำหรับเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถ, เรือ, เครื่องบิน ภาษาอังกฤษก็เป็นหัวใจสำคัญที่จะพาเราไปถึงที่หมายได้อย่างสวัสดิภาพนะครับ

7) เข้าใจความหมายเนื้อเพลงและเพิ่มอินเนอร์ในการร้อง
ข้อนี้เขียนจากประสบการณ์ส่วนตัวของแอดมินล้วนๆ สมัยเด็กๆที่แอดมินยังไม่ได้เข้าใจความหมายของภาษาอังกฤษนั้น จำได้ว่าเคยหัดร้องเพลง Right here waiting ของลุง Richard Marx ที่ดังมากๆในสมัยนั้น แต่ก็แบบว่าร้องไปแบบนกแก้วนกขุนทอง แต่ไม่รู้ว่าเพลงนี้มันหมายถึงอะไรจริงๆ อย่างท่อนที่ร้องว่า “Oh can you see it, baby? ” ก็เข้าใจว่ามันหมายความว่า “เธอเห็นลูกของเรามั้ย” โดยที่ไม่รู้ว่าฝรั่งเขาใช้คำว่า baby เรียกแฟน 😂😂😂
จนตอนหลังพอเข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้นแล้วมาร้องอีกที โอ้โหมันมีประโยคเด็ดๆเยอะไปหมด เช่น ” Whatever it takes, or how my heart break, I will be right here waiting for you. ” (ไม่ว่าจะต้องพยายามมากเท่าไหร่ หรือต่อให้หัวใจของฉันจะแหลกสลายแค่ไหน ฉันก็จะยังคงรอเธออยู่ตรงนี้เสมอ) ว้าว! พอเข้าใจความหมายแล้วร้องเนี่ย อินเนอร์และอารมณ์ที่เราใช้ร้องเพลงออกมานี่มันต่างกับตอนไม่เข้าใจความหมายจริงๆเลยครับ

8) เพิ่มอรรถรสในการชมภาพยนตร์
ภาพยนตร์ภาษาอังกฤษนั้นแน่นอนว่าเวลาเราไปดู เราก็สามารถเลือกแบบมีซับไทยหรือแบบพากย์ไทยได้หากเราไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ แต่ว่ามันจะมีคำศัพท์หรือสำนวนไม่น้อยในภาษาอังกฤษ ที่หากเราเข้าใจแบบออริจิในภาษาอังกฤษแล้ว มันก็จะได้อรรถรสเด็ดถึงพริกถึงขิงมากกว่าคำแปลเป็นไทยมากๆเลยนะครับ ตัวอย่างเช่นสำนวน “get a wriggle on” เนี่ย เป็นภาษาอังกฤษสำเนียงค็อกนีย์ที่คนในลอนดอนใช้พูดกัน แปลว่า “รีบๆเข้าสิ” ที่จริงๆแล้วก็ไม่ค่อยมีใครใช้กันเท่าไหร่ ซึ่งถ้ามันแปลเป็นไทยมาก็อาจจะไม่ค่อยขำเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับกรณีที่เรารู้จักว่ามันเป็นสำเนียงค็อกนีย์แล้วคนอังกฤษเองก็จะขำมากอะไรมาก โดยสรุปแล้วยิ่งฟังได้เยอะและรู้คำศัพท์และสำนวนเยอะๆ เราก็จะยิ่งได้อรรถรสในการชมภาพยนตร์มากขึ้นแน่นอนครับ (ป.ล.ใน American English จะใช้ get a wiggle on นะครับ)

9) เพิ่มโอกาสในการหาเพื่อน
แน่นอนว่าจากขนาดประชากรไทยเกือบ 70 ล้านคนนั้น แค่นี้เราเองก็ไม่สามารถที่จะทำความรู้จักเป็นเพื่อนได้หมดอยู่แล้ว แต่คุณลองคิดดูว่าถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษได้ ปริมาณของประชากรโลกที่คุยกับคุณรู้เรื่องจะเพิ่มขึ้นอีก 1000 ล้านคนทันที! (สามารถอ้างอิงอันดับจำนวนประชากรที่ใช้ภาษาต่างๆในโลก 15 อันดับแรกได้จาก บทความ นี้เลยนะครับ) ซึ่งการที่เราสามารถคบหาสมาคมกับคนเหล่านี้ได้ ก็จะเป็นโอกาสในการเรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกที่กว้างใหญ่ตามมาอีกมากมาย ความสามารถในการหาเพื่อนได้แค่ 70 ล้านคนย่อมไม่เด็ดและน่าตื่นตาตื่นใจเท่าความสามารถในการหาเพื่อนได้กว่า 1070 ล้านคนจริงมั้ยครับ? 😉

10) เพิ่มโอกาสในการหาคู่ครอง
สำหรับประเด็นนี้ก็จะเป็นส่วนต่อของประเด็นที่แล้ว แน่นอนว่าถ้าปริมาณคนที่สามารถเป็นเพื่อนเราเพิ่มขึ้นเป็นเกินพันล้านคน โอกาสที่เราจะได้ประสบพบเจอคู่ครองในอนาคตของเราก็จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว บางคนอาจจะบ่นว่าตัวเราอาจจะไม่ใช่สเป็กคนไทย ก็ถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษได้คุณจะแคร์อะไรล่ะครับ? ถ้าหาคู่ครองคนไทยแล้วไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ Go-Inter เปิดตัวสู่ตลาดโลกไปโลดครับ!!! 😁😁😁

11) เป็นตัวแทนประเทศได้แบบไม่ขายหน้า
การเป็นตัวแทนประเทศไทยไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่คุณเป็นนางงาม หรือไปแข่งกีฬาโอลิมปิคหรือเอเชียนเกมส์เท่านั้น แต่เกิดขึ้นทุกครั้งที่คุณมีปฏิสัมพันธ์และติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติต่างวัฒนธรรมจากเรา ซึ่งบ่อยครั้งที่ชาวต่างชาติก็สนใจไคร่รู้เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับประเทศไทยของเรา แน่นอนว่าหากคุณพูดภาษาอังกฤษได้ คุณก็จะสามารถเป็นตัวแทนแนะนำประเทศไทย บอกเล่าความเป็นไปของไทยได้อย่างสมภาคภูมิ นอกจากนั้นยังช่วยแก้ไขอธิบายความเข้าใจผิดที่เขามีต่อประเทศเราได้อีกด้วย นี่แหละครับ อานุภาพของภาษาอังกฤษในเวทีโลก 😎

12) ป้องกันการถูก “มองบน”
เนื่องจากในปัจจุบัน ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ผู้คนมากมายที่เรียนหนังสือทั่วโลกต้องเรียนเป็นวิชาหนึ่งในโรงเรียน เอาเป็นว่าไม่ว่าคุณจะเรียนแผนไหน, จะต้องเรียนวิทยาศาสตร์หรือเรียนคณิตศาสตร์หรือไม่ก็ตาม สุดท้ายแล้ววิชาที่ทุกคนต้องเรียนแน่นอนก็คือภาษาอังกฤษ ด้วยเหตุนี้ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษจึงแอบถูกใช้เป็นเครื่องมือในการ “เปรียบเทียบและตัดสินความฉลาด” ของคนจำนวนหนึ่งไปโดยปริยาย (ซึ่งอันนี้ส่วนตัวแล้ว แอดมินก็ไม่ได้เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เพราะเข้าใจว่า “ความฉลาด” หรือ “ความเก่งกาจ” นั้น ไม่ได้วัดจากสิ่งนี้สิ่งเดียว ต้องดูหลายๆปัจจัยประกอบกัน) หากคุณใช้ภาษาอังกฤษได้ดี คนเหล่านี้ก็จะไม่กล้าดูถูกหรือ “มองบน” คุณได้ เรียกได้ว่าใช้ภาษาอังกฤษเป็นยันต์ป้องกันการถูกมองบนจากคนที่มีความเชื่อแปลกๆเลยก็ว่าได้นะครับ 😆😆😆

13) ป้องกันการถูก “นินทา” ในระยะเผาขน
สำหรับข้อนี้ก็ตรงไปตรงมาตรงที่ว่าถ้าเมื่อไหร่คนอื่นที่พูดอังกฤษสื่อสารระหว่างกัน รู้ว่าคุณพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แบบว่าพูดอะไรไปก็ฟังไม่ออกแน่ๆอะไรแบบนี้ เมื่อนั้นตัวคุณอาจจะตกเป็น”เป้า”ของการนินทาว่าร้ายของคนเหล่านั้นเป็นภาษาอังกฤษในระยะเผาขนได้โดยไม่รู้ตัว หากคุณใช้ภาษาอังกฤษได้ดี ก็จะเป็นการสร้างความยากลำบากในการนินทาให้คนเหล่านี้มากขึ้น (คือแบบระยะเผาขนจะหมดไปแน่นอน ส่วนลับหลังเป็นยังไงนั้นก็ตัวใครตัวมันนะครับ) แต่โดยรวมแล้วแอดมินคิดว่าหากคุณคุยกับคนอื่นเป็นภาษาอังกฤษรู้เรื่อง มันจะเป็นการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างกันไปด้วยในตัว โอกาสที่จะถูกนินทาว่าร้ายลับหลังก็จะยิ่งน้อยลงไปเองครับ

14) เพิ่มตัวเลือกประเทศที่จะเป็น “บ้าน”
ข้อนี้ก็สามารถอธิบายได้คล้ายๆกับข้อที่เกี่ยวกับการหาเพื่อนและคู่ครองนะครับ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของเราจะช่วยเพิ่มจำนวนประเทศที่เราสามารถย้ายไปตั้งรกราก, ทำมาหากิน และใช้ชีวิตได้ด้วย (คือเราจะไปหรือไม่ไปก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่อย่างน้อยเราก็สามารถอุ่นใจได้ว่าเราจะอยู่รอดบนโลกนี้ได้มากกว่าหนึ่งประเทศถ้วนแน่นอน) เอาง่ายๆว่าต่อให้เกิดโลกร้อนแบบปรี๊ดสุดๆจนประเทศไทยร้อนเกินมนุษย์อยู่อาศัยได้ เราก็ยังสามารถมองหาสถานที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าให้ย้ายไปตั้งตัวใหม่ได้นะครับ เรียกได้ว่าเรามีไพ่ในมือให้เล่นเพิ่มขึ้น ส่วนจะใช้ไพ่ใบนั้นหรือไม่ก็เป็นสิทธิของเราแล้วครับ

15) เอาไว้อ่านและคอมเมนต์ในโลก Social Media
ในโลกปัจจุบันที่คนเราไม่น้อยใช้ชีวิตในโลกโซเชียลมีเดียอาจจะมากกว่าในชีวิตจริงรอบตัวด้วยซ้ำนี้ (ซึ่งก็แอบน่าเศร้าอยู่พอสมควร) ทักษะภาษาอังกฤษจะเพิ่มขีดความสามารถ ให้คุณสามารถติดตามส่องและคอมเมนต์สเตตัสต่างๆของคนมีชื่อเสียงระดับโลก ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักได้ง่ายและสนุกมือยิ่งขึ้นนะครับ
ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชอบแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งต่างๆมากมายแล้วล่ะก็ คุณจะสนุกสนานกับการโต้ตอบความเห็นเป็นภาษาอังกฤษแน่นอน แต่ก็อย่าลืมด้วยนะครับว่ายิ่งเข้าถึงคนมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะเจอคนที่เห็นต่างจากเราก็ยิ่งมากขึ้นตามกันไปด้วย และทุกคนก็ไม่ได้จะใช้ภาษาในการแสดงความคิดเห็นที่ดีไปหมด ถ้าคุณคิดจะเดินทางนี้แล้ว ต้องเตรียมใจเผื่อเวลาเจอความเห็นที่แตกต่างจากเราด้วยก็จะดีมากครับ
