ปีที่แล้วแอดมินเคยแนะนำหลักการการเลือกเรียนภาษาจากความ”ร่ำรวย” ของประเทศเจ้าของภาษาไปแล้ว วันนี้แอดมินจะขอลงรายละเอียดกับวิธีการเลือกเรียนภาษาแบบที่ “เน้นปริมาณเข้าว่า” ด้วยจำนวนของผู้ใช้ภาษานั่นเองนะครับ เราไปดูกันดีกว่าครับว่าภาษาอะไรบ้างที่มีคนพูดมากที่สุด 15 อันดับแรกของโลกเพื่อตามหาภาษาเด็ดๆมาเรียนกันเลยนะครับ
ก่อนอื่นต้องขออธิบายว่า ตามข้อมูลที่แอดมินหามาได้นั้น…
*** L1 หมายถึงจำนวนประชากรของผู้ที่ใช้ภาษานั้นเป็นภาษาแม่หรือภาษาที่ 1(ก็คือเจ้าของภาษาหรือ native speakers นั่นเองนะครับ) และ
*** L2 หมายถึงจำนวนประชากรของผู้ที่ใช้ภาษานั้นเป็นภาษาที่สอง
สำหรับสถิติจำนวนประชากรผู้ใช้ภาษาต่างๆทั่วโลกนั้น อ้างอิงมาจากข้อมูลของวารสาร Ethnologue – Languages of the World ที่ตีพิมพ์ทุกปี โดยสถาบัน SIL International ในประเทศสหรัฐอเมริกานะครับ
สำหรับภาษาไทยของเรานั้นมี L1 อยู่ 20.6 ล้านคน และ L2 มี 40 ล้านคน รวมแล้วมีคนพูด 60.6 ล้านคน จัดอยู่ในอันดับที่ 28 ของโลกนะครับ (แต่เอาจริงคืองงว่าทำไมเนทีฟเขานับแค่ 20.6 ล้านคน? คนไทยมีตั้ง 67 ล้านคน หรือว่าเขาเอาเฉพาะคนพูดภาษากลางจริงๆมานับนะ? เริ่มหวั่นใจกับความน่าเชื่อถือของสถิตินี้อย่างบอกไม่ถูก 555)
ภาษาที่มีจำนวนคนใช้มากที่สุดในโลก 15 อันดับแรก ได้แก่
1. ภาษาอังกฤษ (English: L1 – 379, L2 – 753.3, รวม 1132 ล้านคน)
นับว่าเป็นภาษาที่สำคัญที่สุดในโลกในการทำงานติดต่อค้าขายและท่องเที่ยวนะครับ เนื่องจากเป็นภาษาที่มีคนเรียนเป็นภาษาที่สองในโรงเรียนต่างๆทั่วโลก ปริมาณ L2 ก็เลยมาเป็นถึง 2 เท่าของ L1 ภาษาอังกฤษนับว่าเป็นกุญแจสำคัญของการ Go-Inter เลยก็ว่าได้นะครับ
2. ภาษาจีนกลาง (中文 – Mandarin Chinese: L1- 917.8, L2 – 198.7, รวม 1116 ล้านคน)
แน่นอนว่าภาษาของอาตี๋ อาหมวย อาแปะ อากง อาม่า ก็นับว่าเป็นภาษาที่มีปริมาณคนพูด L1 ไม่เป็นรองใครในโลกนี้เลย (แม้ว่าจะใช้นโยบายให้มีลูกได้คนเดียวมาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ประเทศจีนก็ยังคงมีประชากรมากที่สุดในโลกในขณะนี้อยู่ดี) สิ่งที่น่าจับตาในขณะนี้ก็คือบทบาทของประเทศจีนในภูมิภาคเอเชียในทางเศรษฐกิจและการค้าที่ค่อยๆขยายตัวและเพิ่มความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ (สังเกตได้จากการที่นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวประเทศไทยแต่ก็พูดภาษาจีนใส่พวกเราหน้าตาเฉย… ตรึง!) การผงาดขึ้นของบริษัทเชื้อสายจีนขึ้นมาเป็นผู้เล่นในระดับโลกที่ฝั่งยุโรปและอเมริกาเองก็ต้องอ้าปากค้างไปตามๆกัน สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้ภาษาจีนกลางมีความน่าสนใจและน่าเรียนอยู่มากเลยทีเดียว
3. ภาษาฮินดี ( हिन्दी – Hindi: L1-341.2, L2 – 274.2, รวม 615.4 ล้านคน)
สำหรับภาษาฮินดีที่ใช้กันในประเทศอินเดียเป็นส่วนใหญ่นี้ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณประชากรที่ใช้รวมกันกว่า 600 ล้านคน แต่แอดมินคิดว่าส่วนใหญ่แล้วนั้นคนอินเดียก็พูดภาษาอังกฤษได้ดีและสามารถสื่อสารกับเราได้หากเราพูดภาษาอังกฤษได้ (ถึงแม้ว่าสำเนียงภาษาอังกฤษของคนอินเดียนั้นจะกระดกลิ้นมากมายส่วนเราก็อาจจะงงไปบ้าง) ดังนั้นหากคุณไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าวงการนักแสดงดารา Bollywood แล้ว แอดมินก็ขอฟันธงตรงนี้เลยว่า “ไม่ต้องเรียน” ภาษานี้ก็ได้ 555
4. ภาษาสเปน (Espagnol – Spanish: L1-460.1, L2- 74.2, รวม 534.3 ล้านคน)
ภาษาสเปนเป็นภาษาที่ใช้อย่างแพร่หลายในทวีปอเมริกาใต้บวกกับประเทศสเปน ถ้าพูดภาษาสเปนได้ก็จะเต้นระบำฟลาเมงโก้, เต้นแทงโก้, เต้น Salsa, Zumba ได้ออกรสออกชาติมากขึ้นและเข้าใจเนื้อหาของเพลงที่เต้นได้เป็นอย่างดี (ว่าที่มันฟังดูเท่ๆนั้นจริงๆแล้วสมองโคล่งมาก 555) ภาษานี้จึงถือเป็นภาษาที่เด็ดน่าเรียน ไม่ว่าจะพิจารณาจากด้านคุณภาพหรือปริมาณ ควรเรียนเป็นอย่างยิ่ง
5. ภาษาฝรั่งเศส (Français – French: L1-77.2, L2- 202.6, รวม 279.8 ล้านคน)
ภาษาฝรั่งเศสคือความงามของชีวิต ใช้พูดอย่างแพร่หลายในหลายประเทศในยุโรปเช่น ฝรั่งเศส, สวิตเซอร์แลนด์, เบลเยียม, ลักเซมเบิร์ก และในมณฑลควิเบคของประเทศแคนาดา ในอัฟริกาก็มีหลายประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการเช่น คองโก, รวันดา, อัฟริกากลาง, มอริเชียส อีกทั้งในประเทศหมู่เกาะต่างๆในมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงประเทศที่เป็นเกาะในทวีปอเมริกากลางและใต้อีกด้วย รวมๆแล้วก็มี 29 ประเทศเลยนะครับที่ใช้ฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ ภาษานี้เหมาะกับคนที่ติสต์แตกและฮิปสเตอร์อย่างไรบอกไม่ถูก แอดมินลองเรียนขำๆแล้วก็ไม่สามารถหยุดเรียนภาษานี้ได้จริงๆ 555
6. ภาษาอาหรับมาตรฐาน (العربية الفصحى, عربي فصيح – Modern Standard Arabic: L2- 273.9, รวม 273.9 ล้านคน เพราะว่าไม่มี L1)
ภาษาอาหรับมาตรฐานนี้มีความพิเศษอย่างหนึ่งคือเป็นภาษาเขียนที่ใช้เรียนและสอนกันในโลกอาหรับแต่ว่าเวลาพูดคนเขาจะพูดอีกอย่างหนึ่งนะครับ เป็นภาษาที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในประเทศแถบตะวันออกกลางและอัฟริกาตอนเหนือ เช่นซาอุดีอาระเบีย บาห์เรน อียิปต์ อิรัก ลิเบีย เลบานอน โมรอคโค จอร์แดน เป็นต้น รวมทั้งสิ้น 27 ประเทศแหนะครับ บางคนชอบเอาภาษาอาหรับหรือคนอาหรับไปผูกกับผู้ก่อการร้ายระเบิดพลีชีพอะไรต่างๆ แต่เราจะลืมไม่ได้นะครับว่านั่นมันเป็นเพียงแค่ปลาเน่าเพียงไม่กี่ตัวที่ทำให้เหม็นไปทั้งข้อง จริงๆแล้วคนอาหรับที่รักสันติภาพและความสงบสุขก็มีมากกว่าหลายเท่าตัว ที่สำคัญอีกอย่าง เศรษฐีตะวันออกกลางที่ชอบเดินทางมาเที่ยวและรับการรักษาพยาบาลที่ประเทศไทยของเรานั้นก็มีไม่น้อย อีกทั้งคนอาหรับที่สนใจสินค้าไทยก็มีมาก ถ้าเราพูดภาษาเขาได้ก็มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มอีกโขเลยครับ
7. ภาษาเบงกาลี (বাংলা – Bengali: L1- 228.3, L2- 36.7, รวม 265 ล้านคน)
ภาษาเบงกาลีเป็นภาษาที่ใช้พูดหลักๆในประเทศบังกลาเทศและในรัฐทางตะวันออกของประเทศอินเดียนะครับ ถือเป็นภาษาที่มีคนใช้มากที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศอินเดียรองจากภาษาฮินดีด้วยครับ เป็นภาษาที่มีรากมาจากภาษาสันสกฤตและน่าจะเรียนได้ไม่ยากสำหรับคนไทยที่ศึกษาภาษาไทยโบราณมาอย่างลึกซึ้ง ถ้าจะติดต่อค้าขายกับบังกลาเทศก็น่าจะมีความจำเป็นต้องเรียนเพราะคนที่นั่นน่าจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ (เพราะอันดับความเก่งภาษาอังกฤษของบังกลาเทศตาม EPI (English Proficiency Index) อยู่ที่ลำดับ 71 ของโลก….ซึ่งก็ยังสูงกว่าไทยอยู่สามอันดับอยู่ดี 555)
8. ภาษารัสเซีย (русский язык – Russian: L1-153.7, L2- 104.4, รวม 258.2 ล้านคน)
ภาษารัสเซียใช้พูดกันอย่างโจ๋งครึ่มในประเทศรัสเซีย, ประเทศที่เคยอยู่ในสหภาพโซเวียต, และประเทศในยุโรปคะวันออกนะครับ เมื่อนึกถึงภาษารัสเซีย บุคคลแรกที่แอดมินนึงถึงก็คือ”ลุงปูติน” แต่แน่นอนว่าภาษารัสเซียนี้เราไม่ได้เรียนเพื่อไปพูดกับลุงปูตินเพียงคนเดียวแน่นอน ไหนจะมีป้านาตาชา, น้าดิมิทรี ยายโอลก้า ลุงนิโคไล อีกเป็นต้น ภาษารัสเซียก็ถือเป็นภาษาที่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยหากเราต้องการจะมีปฏิสัมพันธ์ติดต่อกับประเทศทางยุโรปตะวันออก เพราะว่าภาษาในยุโรปตะวันออกส่วนมากก็คือภาษาในตระกูลสลาวิก (Slavic family) ที่มีความคล้ายคลึงกัน สามารถลิงค์กันไปได้มากมาย ที่สำคัญแอดมินแอบรู้มาจากเพื่อนชาวรัสเซียด้วยนะว่าภาษารัสเซียไม่ได้มีสำเนียงท้องถิ่นมากมายเหมือนภาษาอื่นๆ (แค่ไทยเราก็มีตั้งหลายสำเนียง) เนื่องมาจากความสำเร็จในเรื่องการบังคับคนให้ใช้ภาษาแบบเดียวกันในสมัยที่เป็นสหภาพโซเวียต สิ่งนี้ถือเป็นข้อดีสำหรับเราชาวต่างชาติผู้เรียนมากๆ เพราะไม่ต้องมาคอยปวดหัวกับสำนวนหรือการออกเสียงที่สับสนวุ่นวายในท้องถิ่นที่แตกต่างกันนะครับ
9. ภาษาโปรตุเกส (Português – Portuguese: L1-220.7, L2-13.4, รวม 234.1 ล้านคน)
ภาษาโปรตุเกสใช้พูดกันหลักๆในประเทศบราซิลและประเทศโปรตุเกสนั่นเองครับ ซึ่งแน่นอนว่าอาจจะฟังดูไม่ได้เป็นประเทศที่ร่ำรวยอะไรมากนัก แต่ว่าก็ถือเป็นประเทศที่น่าไปเที่ยวเป็นอย่างมากเพราะมีวัฒนธรรมที่สวยงามทั้งสถาปัตยกรรมอลังการและอาหารการกินที่รสชาติเด็ด (ถึงขนาดที่ไทยเราก็ยังไปเอาทองหยิบทองหยอดฝอยทองของเขามาเป็นทรัพย์สิน!) คนโปรตุเกสและบราซิลเองก็มีความเม้ามอยเป็นกันเอง คุยด้วยแล้วเหมือนกำลังคุยกับคนไทยอยู่อย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว ยิ่งถ้าคุณเป็นคนชอบแดนซ์กระจุยกระจายยักย้ายส่ายสะโพกยิ่งควรเรียนภาษาโปรตุเกสเพื่อให้เต้นแซมบ้าได้ออกรสออกชาติมากขึ้นทันที และเนื่องจากเป็นภาษาตระกูลโรมานส์ที่เป็นตระกูลเดียวกับภาษาฝรั่งเศส สเปน และอิตาเลียน ถ้าคุณพูดโปรตุเกสได้ก็จะสามารถต่อยอดเรียนภาษาโรมานส์ภาษาอื่นได้ไม่ยากเลยล่ะครับ
10. ภาษาอินโดนีเซีย (Bahasa Indonesia – Indonesian: L1-43.3, L2-155.3, รวม 198.7 ล้านคน)
ภาษาอินโดนีเซียเป็นภาษาราชการของประเทศอินโดนีเซียเพื่อนบ้านของเราและเป็นภาษาที่คล้ายคลึงกับภาษามลายูในมาเลเซียเป็นอย่างมาก ด้วยอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำลังมาแรงทำให้อินโดนีเซียนับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความ”เนื้อหอม”ของนักลงทุนต่างชาติมากมาย การเรียนภาษาอินโดนีเซียก็น่าจะเป็นโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งของเราในกลุ่มประเทศ AEC ก็เป็นได้ครับ ยิ่งต่อจากนี้เขาจะย้ายไปสร้างเมืองหลวงใหม่บนเกาะบอร์เนียวด้วยแล้ว โครงการก่อสร้างอะไรต่างๆก็น่าจะตามมาในไม่ช้านะเออ
11. ภาษาอูรดู (اُردُو – Urdu: L1-68.6, L2-101.6, รวม 170.2 ล้านคน)
ภาษาอูรดูเป็นภาษาราชการในประเทศปากีสถานและอินเดียใน 7 รัฐ นอกจากนี้ยังเป็นภาษาของประชากรส่วนหนึ่งในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเนปาลอีกด้วย ภาษานี้มีความใกล้เคียงกับภาษาฮินดีอยู่ไม่น้อย แม้ว่าฮินดีจะมีรากศัพท์มาจากสันสกฤตเยอะ แต่ว่าอูรดูมีรากศัพท์จากภาษาเปอร์เซียเยอะก็ตาม จากสถิติ English Proficiency Index ปี 2019 ประเทศปากีสถานได้อันดับที่ 54 (สูงกว่าไทย 20 อันดับอยู่ดีนะ!) ซึ่งจัดว่าเข้าข่ายพูดอังกฤษไม่เก่ง (Low proficiency) ดังนั้นหากคุณต้องติดต่อไปมาหาสู่กับประเทศปากีสถานบ่อยๆก็อาจจะมีความจำเป็นต้องเรียนภาษาอูรดูอยู่เหมือนกันนะครับ
12. ภาษาเยอรมัน (Deutsch – German: L1-76, L2-56, รวม 132.1 ล้านคน)
ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการในประเทศเยอรมนี, ออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์, ลิกเตนสไตน์ และลักเซมเบิร์ก ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความ”ร่ำรวย”และเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของสหภาพยุโรปเลยนะครับ นอกจากนี้เมืองหลายๆเมืองในประเทศที่พูดภาษาเยอรมันเหล่านี้ก็ได้ถูกจัดอันดับเป็นเมืองที่น่าอยู่และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีบริษัทข้ามชาติใหญ่ๆเยอะมากที่ไปทำธุรกิจในเมืองไทย คนในประเทศเขาเองก็ชอบมาเที่ยวไทยกันมาก ไปแล้วไปอีกแล้วก็ชอบมาชมเปาะให้แอดมินฟังอยู่จนหูชาอยู่ตลอดเวลา (ขนาดเล่าเรื่องปาหี่การเมืองไทยให้ฟังก็แล้ว แต่ยังคงเลือกที่จะหลงเมืองไทยหัวปักหัวปำก็มี!!! 555) โดยสรุปแล้ว หากคุณไม่เกรงกลัวที่จะต้องต่อสู้กับไวยากรณ์ที่สับสนวุ่นวายยิบย่อยของภาษาเยอรมัน รวมทั้งการออกเสียงที่ต้องออกให้ครบกันทุกตัวอักษรเกือบตลอดเวลาแล้วล่ะก็ ภาษาเยอรมันที่จะเปิดทางและโอกาสใหม่ๆในชีวิตหลายๆอย่างให้กับคุณได้อย่างแน่นอนครับ
13. ภาษาญี่ปุ่น (にほんご -日本語- Japanese: L1-128.2, L2-121500, รวม 128.3 ล้านคน)
ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาราชการที่ประเทศ”ญี่ปุ่น”ถ้วน (และอาจจะบางส่วนของกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเฉพาะแถวสุขุมวิท!) แต่ด้วยความที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ถือเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจและมีความเก่งกาจชำนาญในด้านการออกแบบและผลิตสินค้าที่มีนวัตกรรมต่างๆมากมายในโลกนี้ อีกทั้งยังมีวัฒนธรรม (ทั้งแบบเก่าแก่และแบบโมเดิร์น) ที่น่าสนใจอยู่มากมาย ไหนจะซูชิ, ทงคัตสึ, เทมปุระ, โอนิกิริ, ยากิโซบะ, คาราอาเกะ ฯลฯ …โอย, พูดแล้วหิว! การพูดภาษาญี่ปุ่นได้ก็จะทำให้คุณสามารถมีชีวิตที่”ฟินน์”มากขึ้นอย่างแน่นอนครับ ในช่วงหลังๆ ประชากรญี่ปุ่นก็เริ่มมีคนแก่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ขาดแรงงานไปช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้นๆ คนต่างชาติอย่างเราๆก็มีโอกาสในการไปหางานที่ญี่ปุ่นได้สูงขึ้น สังเกตได้จากมีโครงการรับคนจบอาชีวศึกษาที่ไทยไปฝึกงานที่บริษัทญี่ปุ่นมากมาย แม้แต่ทุนเรียนและทุนทำวิจัยต่างๆที่มีล้นเหลือ ขอแค่คุณมีความสามารถและตั้งใจจริง หนทางสู่ญี่ปุ่นนั้นอยู่แค่เอื้อมจริงๆครับ
14. ภาษาสวาฮีลี (Kiswahili – Swahili: L1-16, L2-82.3, รวม 98.3 ล้านคน)
ภาษาสวาฮีลีเป็นภาษาราชการในกลุ่มประเทศแถบอัฟริกาตะวันออกได้แก่ เคนย่า, แทนซาเนีย, บุรุนดี, คองโกและรวันดา และถือเป็นภาษาราชการของสหภาพอัฟริกา (African Union) ด้วยนะครับ หากใครไม่รู้ว่าภาษาสวาฮีลีนี่มันเป็นยังไงก็ลองนึกถึงการ์ตูนหรือมิวสิคัลเรื่อง The Lion King ของดิสนีย์ดูก่อนครับ มันมีเพลงหนึ่งจากในเรื่องชื่อว่า “Hakuna matata” ที่แปลว่า “ไม่มีปัญหา” นั่นแหละครับภาษาสวาฮีลี จุดที่น่าสังเกตของภาษาสวาฮีลีคือคนอัฟริกาใช้อักษรโรมันเขียนก็ได้, หรือจะใช้อักษรอาหรับเขียนก็ได้นะครับ สำหรับใครที่รักการผจญภัยไปดูป่าส่องสัตว์ในประเทศแถบอัฟริกา หากพูดสวาฮีลีได้ก็คงจะเท่ไม่หยอกเลยนะครับ
15. ภาษามราฐี (मराठी Marathi L1-83.1, L2- 12.2, รวม 95.3 ล้านคน)
ภาษามราฐีเป็นภาษาที่ใช้กันในตอนกลางของประเทศอินเดียแถบรัฐมหาราฏร์และรัฐใกล้เคียง, นอกจากนี้ยังมีชนกลุ่มน้อยในอิสราเอลและมอริเชียสที่พูดภาษานี้อีกด้วยครับ ก็คิดว่าเคสนี้น่าจะคล้ายๆกับภาษาฮินดีตรงที่ว่าคนอินเดียก็พอพูดภาษาอังกฤษกันได้บ้าง ดังนั้นภาษามราฐีนี้ก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องเรียนอะไรเท่าไหร่นัก เอาเวลามาฝึกฟังสำเนียงอังกฤษของคนอินเดีย ให้เข้าใจมากขึ้น น่าจะเป็นการใช้เวลาที่คุ้มค่ากว่าก็เป็นได้นะเออ
1 thought on “ภาษาไหนมีผู้ใช้กี่คน?”