ในการโกอินเตอร์ให้เด็ดและประสบความสำเร็จนั้น ปัจจัยหลักๆก็คือความสามารถในการฟังพูดอ่านเขียนภาษาต่างประเทศให้สื่อสารกับคนในประเทศที่จะไปโกอินเตอร์ให้เข้าใจกันรู้เรื่องนั่นเองครับ วันนี้แอดมินมีเทคนิค 5 ข้อในการเรียนภาษาต่างประเทศให้เด็ดมาฝากครับ ให้ดูคำอธิบายในแต่ละรูปได้เลยนะครับ คุณผู้อ่านท่านใดมีเทคนิคเด็ดเคล็ดลับมาแชร์เพิ่มก็ทิ้งคอมเมนต์ไว้ได้เลยครับ
1) ตั้งเป้าหมายในการเรียน
การเดินทางไปข้างหน้าโดยไร้จุดหมายน่าเบื่อฉันใด การเรียนภาษาโดยที่ไม่รู้ว่าจะเรียนไปเพื่ออะไรก็ย่อมน่าเบื่อฉันนั้นนั่นเองครับ จากประสบการณ์พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตาของแอดมิน ทำให้แอดมินได้สังเกตเพื่อนบางคนที่เรียนภาษาอังกฤษได้คะแนนไม่ดีในโรงเรียน แต่พอเพื่อนเหล่านี้ตั้งใจจะไปเรียนต่ออเมริกาหรืออังกฤษเท่านั้นแหละ! หูยย์!!! คะแนนโทเฟิลพุ่งปรี๊ดปร๊าดราวกับวิญญาณจอร์จวอชิงตันเข้าสิงซะงั้น ก็เพราะว่าเป้าหมายมันชัดเจนขึ้นมานั่นเองเนอะ
สมัยเรียนที่ญี่ปุ่นก็เช่นกัน แอดมินสังเกตเห็นคนที่ไปเรียนเพื่อจะเอาดีกรีอย่างเดียวถ้วน ก็เห็นทันทีว่าภาษาญี่ปุ่นนั้นพูดได้ไม่เก่งเท่าคนที่ตั้งใจจะหาคู่ครองเป็นคนญี่ปุ่นให้ได้ มีเพื่อนแอดมินคนนึงเป็นหญิงไทยใจงามแต่ประกาศกร้าวตั้งแต่เหยียบเกาะญี่ปุ่นว่าจะต้องหาผ.ญี่ปุ่นให้ได้….ผ่านไปไม่ถึงสองปีเธอสอบวัดระดับสูงสุดของภาษาญี่ปุ่นผ่านด้วยคะแนนดีงามทันที!
อยู่ที่เยอรมนีในที่ทำงานก็เช่นกัน แอดมินเจอเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียที่มาทำงานแค่ระยะสั้นหกเดือนปีนึง พวกนี้ส่วนใหญ่ก็จะไม่มีใครตั้งใจเรียนภาษาเยอรมันมากเพราะคิดว่าเดี๋ยวก็กลับแระไรงิ
สรุปง่ายๆก็คือ…ถ้าคุณไม่มีเป้าหมายในการเรียนภาษาแล้วล่ะก็โอกาสที่จะล้มเลิกกลางคันมีสูงมากครับ แต่แอดมินมั่นใจว่าคนที่ตามเพจนี้มีเป้าหมายอยากจะโกอินเตอร์ไปต่างประเทศ…เพราะฉะนั้นข้อนี้ผ่านฉลุยแน่นอน!!!
สำหรับคนที่อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว ก็ยังหาเป้าหมายที่ดีที่โดนไม่ได้สักที Admin ขอแนะนำให้ลองอ่าน บทความที่เคยเขียนไปแล้วเรื่อง “ภาษานั้นสำคัญต่อชีวิตจริงหรือ?” ดูก่อนนะครับ เผื่อจะมีไอเดียอะไรเพิ่ม
2) ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน
ภาษาใดๆก็ตามมีทั้งการฟังพูดอ่านและเขียนเกือบทั้งสิ้น การที่เราจะสามารถใช้ภาษาใดๆให้ถูกต้องมีประสิทธิผลนั้นเราไม่ควรจะละทิ้งทักษะใดทักษะหนึ่งในนี้ไปเลย เพราะมันจะทำให้เราเร่งสปีดในการเรียนได้ยากครับ การฟังบ่อยๆจะเสริมให้เราพูดได้คล่องและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในขณะที่การอ่านมากๆ ก็จะเสริมให้เราเขียนเก่งขึ้นๆเป็นเงาตามตัวด้วยคำศัพท์และสำนวนที่ได้เรียนรู้มาจากการอ่าน สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนไทยก็คือเราไม่ค่อยมีโอกาส (หรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้) ได้ฝึกฟังกับพูดกันเท่าไหร่ เลยทำให้สุดท้ายเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งสิบกว่าปีก็พูดกันไม่ค่อยได้ เปลืองพลังงานเปลืองเวลายิ่งนัก โชคดีที่สมัยนี้อินเตอร์เน็ตทำให้เราหาโอกาสฟังและพูดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก แล้วแอดมินจะมาเล่าต่อในโพสต์ถัดๆไปนะครับ
3) ฝึกให้เป็นนิสัย
ไม่ใช่แค่การเรียนภาษาเท่านั้นนะครับ! การฝึกฝนทักษะทางด้านกีฬาของนักกีฬาก็ดี การฝึกเล่นดนตรีของนักดนตรีก็ดี…ขึ้นชื่อว่าเป็นทักษะแล้วการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ทักษะนั้นยิ่งชำนาญมากขึ้นๆ ภาษาใดๆก็ตาม ถ้าเรียนแล้วไม่ได้ฝึกใช้อย่างสม่ำเสมอ สักวันความเงิบก็จะเข้ามาเกาะกินจนในที่สุดก็ลืมเลือนมันไปจากสมองครับ แอดมินแนะนำให้ฝึกภาษาวันละน้อยๆ (อาจจะ20-30นาที) แต่ให้ฝึกบ่อยๆเป็นประจำ ทำทุกวันได้ก็ยิ่งดีครับ
4) สร้างสิ่งแวดล้อมรอบตัว
สิ่งแวดล้อมในประเทศไทยรอบตัวเรานั้นบางทีก็ไม่เอื้อต่อการฝึกภาษาสำหรับการโกอินเตอร์ของเราสักเท่าไหร่ ดังนั้นเราจึงต้อง”สร้าง” สิ่งแวดล้อมของภาษานั้นๆขึ้นมาด้วยตัวเราเองครับ สมัยนี้มีวิธีสร้างสิ่งแวดล้อมมากมายหลายวิธี เช่นการเปิดวิทยุออนไลน์, เปิดทีวีออนไลน์, ดูวีดีโอยูทิวบ์, ไปเข้าคลับของภาษานั้นๆ, หาเพื่อนแลกเปลี่ยนภาษาทั้งแบบตัวเป็นๆและออนไลน์ สิ่งสำคัญก็คือเราจะต้องพยายามประสานข้อสี่นี้ให้เข้ากับข้อสาม…นั่นคือทำให้มันติดเป็นนิสัยครับ แล้วแอดมินจะมาเล่าวิธีของแอดมินให้อ่านกันในโอกาสต่อไปครับ
5) สอบเพื่อท้าทายตัวเอง
สำหรับข้อนี้เป็นสิ่งที่แอดมินคิดว่าหลายๆคนนั้นมองข้ามกันอยู่ไม่น้อย เพื่อนแอดมินหลายคนที่เรียนภาษาต่างประเทศ ก็มักจะรังเกียจการสอบวัดระดับภาษาที่ตัวเองกำลังเรียนอยู่ด้วยเหตุผลที่ว่า “ชั้นมาเรียนเพื่อเอาไปใช้, ไม่ได้มาเรียนเพื่อสอบนะเฟ้ย!” …. แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวของแอดมินแล้ว เราจะสามารถฟังพูดอ่านเขียนได้คล่องขึ้นทุกครั้งหลังจากที่การสอบในระดับที่สูงขึ้นๆได้ผ่านพ้นไป สำหรับแอดมินแล้ว การสอบวัดระดับเป็นเหมือนด่านเป้าหมายเล็กๆระหว่างทางที่ทำให้เราพยายามผลักดันพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในภาษานั้นๆในช่วงเตรียมตัวสอบ เรียกได้ว่าต่อให้ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนแบบในข้อหนึ่ง ก็เอาการสอบนี่ล่ะวะมาเป็นเป้าหมายเสียเลย!
ผลพลอยได้อีกข้อจากการสอบวัดระดับอีกอย่าง ก็คือเราจะได้หลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรรับรองความสามารถทางภาษาของเรา เอาไว้ใช้สมัครงานหรืออ้างอิงในอนาคตได้ เช่นที่เยอรมนีถ้าจะขอวีซ่าอยู่ถาวรหรือขอสัญชาติก็จะต้องมีหลักฐานสอบวัดระดับภาษาเยอรมันอย่างต่ำระดับ B1ขึ้นไปแนบไปด้วย เรามาสอบวัดระดับภาษากันเถอะครับ!
3 thoughts on “5 เทคนิคเรียนภาษาให้เด็ด!!!”